พระภิกษุสงฆ์ นักบวชและอุบาสิกา

หลวงพ่อ ปสนฺโน (ประธานสงฆ์)

หลวงพ่อปสนฺโนอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี ค.ศ. 1974 โดยมีพระครูญาณศิริวัฒนาเป็นพระอุปัชฌาย์ และในปีแรกแห่งการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ พระอาจารย์ของท่านได้พาไปกราบหลวงปู่ชา ผู้ที่เมตตาอนุญาตให้ไปพำนักและฝึกอบรมปฏิบัติธรรมด้วย ในเวลาต่อมาท่านได้ย้ายไปเป็นสมาชิกสงฆ์รุ่นแรกแห่งวัดป่านานาชาติ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสในขณะที่ท่านบวชเรียนได้ 9 พรรษา หลวงพ่อปสนฺโนได้พัฒนาวัดป่านานาชาติ ทั้งด้านการเจริญเติบโตของบริเวณสถานที่วัด พร้อมกับการสร้างชื่อเสียงวัดให้เป็นที่รู้จัก ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่หลวงพ่อปสนฺโนอาศัยอยู่ในประเทศไทย ท่านเป็นที่รู้จักเคารพศรัทธาจากการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอบรมสั่งสอนญาติโยมอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย ต่อมาท่านตกลงรับหน้าที่เจ้าอาวาสวัดป่าอภัยคีรีร่วมกับพระอาจารย์อมโรเริ่มจากวันก่อนวันขึ้นปีใหม่ปี ค.ศ. 1997 มาจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 2010 เมื่อพระอาจารย์อมโรได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาสวัดอมราวดี ณ ประเทศอังกฤษ หลวงพ่อปสนฺโนจึงเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอภัยคีรีเพียงผู้เดียวต่อมาอีก 8 ปี จวบจนเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 ท่านก็อำลาการทำหน้าที่เจ้าอาวาส เดินทางไปปลีกวิเวกในต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นหลวงพ่อคืนสู่วัดเรา มาพำนักอยู่ในฐานะประธานสงฆ์ เพื่อเป็นหลักและกำลังใจ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาชี้ทางแห่งปัญญาแก่คณะสงฆ์กับญาติโยม โดยมีพระอาจารย์กรุณาธัมโมและพระอาจารย์ญาณิโกเมตตารับเป็นเจ้าอาวาสร่วมกันจนถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ที่คงมีพระอาจารย์ญานิโกเป็นเจ้าอาวาสต่อมาเพียงรูปเดียว

อาจารย์ เสก (เสกสรร วรปญฺโญ)

พระอาจารย์เสกเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1973 ที่จังหวัดยโสธร ท่านมีคำถามในใจมาแต่เด็กว่าคนเราเกิดมาทำไม อยู่เพื่ออะไร และกำลังจะไปไหน เติบโตมาโดยที่ไม่รู้จักตัวเอง หลังจากที่ท่านได้อ่านประวัติครูบาอาจารย์และศึกษาพระพุทธศาสนามาสักระยะ ท่านก็ตัดสินใจอุปสมบทในปี ค.ศ. 1998 ที่จังหวัดยโสธร โดยมีพระครูอุตรกิจโกศลเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านเคยพำนักและปฏิบัติธรรมที่วัดหนองป่าพงและวัดสาขาหลายแห่ง และมีความเคารพนับถือหลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม ในฐานะครูบาอาจารย์ที่สำคัญมากต่อท่าน

ณ วันนี้ พระอาจารย์เสกประจักษ์ว่า หนทางแห่งธรรมของสมณะนี้อาจให้คำตอบของคำถามในวัยเด็กที่กล่าวมาแล้วได้ และท่านรู้สึกสำนึกในพระคุณของครูบาอาจารย์และคณะสงฆ์สหธรรมิกที่ช่วยเหลือสนับสนุนท่านในการเดินทางสายนี้ คติธรรมประจำใจของท่านคือ “จะชนะอะไรใครอื่นหมื่นแสน ก็ไม่เท่าชนะใจตัวเอง”

อาจารย์ กรุณาธมฺโม

อาจารย์กรุณาธมฺโมเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1955 ที่มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ท่านศึกษาและประกอบอาชีพพยาบาล ต่อมาได้ย้ายถิ่นอาศัยมาอยู่ที่เมืองซีแอตเติ้ลเมื่ออายุยี่สิบปีเศษ ณ ช่วงเวลานี้เองท่านเริ่มหันมาสนใจพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ในปี ค.ศ. 1992 ท่านช่วยเป็นธุระจัดการการมาเยือน Bay Area ของสงฆ์คณะหนึ่ง และช่วยงานของวัดอมราวดีในช่วงเข้ากรรมฐานฤดูหนาวเป็นเวลา 2 เดือน อีกสองปีต่อมา ระหว่างการมาเยือนประเทศไทยในปี ค.ศ. 1995 ท่านตัดสินใจบวช พร้อมกับอาสาเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานก่อตั้งวัดป่าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปัจจุบันก็คือวัดป่าอภัยคีรี ท่านร่วมเดินทางมากับคณะบุกเบิกวัดสายหลวงพ่อชาแห่งแรกในอเมริกานี้เมื่อวันที่ 1 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1996 และหลังจากบวชเป็นอนาคาริกครองผ้าขาวต่อด้วยการเป็นสามเณรรวม 2 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1998 โดยมีหลวงพ่อปสนฺโนเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่พระอาจารย์ปสนฺโนเกษียณจากตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2018 พระอาจารย์กรุณาธัมโมและพระอาจารย์ญาณิโกก็รับภาระหน้าที่เป็นจ้าอาวาสร่วมกันเป็นเวลาสองปี และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 ท่านจึงอำลาจากการเป็นเจ้าอาวาสไปปลีกวิเวกช่วงเข้าพรรษาที่อาศรมแปซิฟิก แล้วจึงคืนสู่วัดอภัยคีรี

อาจารย์ ญาณิโก (เจ้าอาวาส)

อาจารย์ญาณิโกเกิดและเติบโตในรัฐแคลิฟอร์เนีย ครั้นถึงปี ค.ศ. 2001 เมื่ออายุ 20 ปี ท่านได้มาเยือนวัดอภัยคีรีและขออนุญาตพำนักฝึกปฏิบัติภาวนาครองผ้าขาวบวชเป็นอนาคาริกที่นี่ และในปีต่อมา ค.ศ. 2002 ท่านก็เข้าสู่ร่มกาสาวภัสตร์บรรพชาเป็นสามเณร และอุปสมบทเป็นพระภิกษุในเดือนกรกฏาคม ค.ศ. 2003 พระอาจารย์ญาณิโกศึกษาวิถีแห่งสมณะและพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยมีหลวงพ่อปสนฺโนและหลวงพ่ออมโรเมตตาเป็นครูบาอาจารย์อบรมชี้แนะในช่วงบวชเรียนอยู่ที่วัดอภัยคีรี ต่อมาท่านเดินทางไปศึกษาและปฏิบัติธรรม สร้างประสบการณ์สงฆ์ตามแบบสายวัดป่าหลวงพ่อชาที่ประเทศไทยนานกว่า 6 ปี

เมื่อหลวงพ่อปสนฺโนอำลาจากการเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2018 พระอาจารย์กรุณาธัมโมและพระอาจารย์ญาณิโกเมตตารับเป็นเจ้าอาวาสร่วมกัน จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 พระอาจารย์กรุณาธัมโมครบกำหนดการช่วยเหลืองานเจ้าอาวาสเป็นเวลาสองปีตามที่สัญญาไว้ พระอาจารย์ญานิโกจึงรับหน้าที่เจ้าอาวาสแต่เพียงรูปเดียวในเวลานี้

ท่าน สุธีโร

ท่านสุธีโรเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1987 ที่เมืองซีแอตเติ้ล ความสนใจในเรื่องการทำงาน
ของจิตนำท่านไปสู่การศึกษาจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยโอเรกอนสเตท และที่นั่นท่านก็รู้จักพุทธศาสนาในวิชาปรัชญาเปรียบเทียบชีวิตและคำสอนของพระเยซูกับพระพุทธเจ้า ความชวนฉงนต่อคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จึงได้นำพาไปสู่ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา หลังจากสำเร็จการศึกษาได้ไม่นาน ท่านได้มาเยือนและพำนักที่วัดอภัยคีรีซึ่งเกิดความประทับใจในคำสอนอบรมและรวมทั้งคณะสงฆ์อุบาสกอุบาสิกา ท่านสุธีโรอาศัยอยู่ที่วัดป่าอภัยคีรีตั้งแต่ช่วงต้นปี ค.ศ. 2011 และบวชเป็นผ้าขาวเพื่อฝึกอบรมปฏิบัติธรรมะอยู่หนึ่งปี ท่านสุธีโรได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2012 และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2013
และท่านก็เดินทางสู่ประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2019

ท่าน ขันติโก

ท่านขันติโกเกิดในปี ค.ศ 1979 ที่เมืองแนชวิล รัฐเทนเนสซี และเติบโตที่นั่น หลังจบการศึกษา ท่านตัดสินใจสู่วิถีแห่งสมณะ จึงมาวัดอภัยคีรีเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 ท่านบวชเป็นอนาคาริกในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ 2013 บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2015

ท่าน สุทธิโก

ท่านสุทธิโกเกิดในปี ค.ศ. 1986 ณ เมืองโบลเด้อร์ รัฐโคโลราโด ได้พบพระพุทธศาสนาแต่เยาว์วัยและกังขาเสมอว่า หลังความตายแล้วจะเป็นอย่างไร พี่สาวท่านมีอิทธิพลให้เริ่มฝึกสมาธิเมื่ออายุ 20 ปี บางครั้งคนเราอาจจะต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตอันสุดที่ ก่อนจะสามารถทุ่มเทกายใจให้แก่ชีวิตสมณะ ท่านก็ประสบกับชีวิตที่ผสมผสานความทุกข์หนักไปพร้อมกับความสุขสบายเหนือคนอื่น ระหว่างที่กำลังตัดสินใจจะเรียนต่อปริญญาโท ท่านได้แวะมาพักที่วัดอภัยคีรีเป็นเวลาสามสัปดาห์ แล้วจึงได้ตัดสินใจว่าการออกบวชนั้นสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านจะได้เรียนในสถานศึกษาใด ท่านจึงตั้งใจจะใช้ชีวิตสมณะให้เกิดประโยชน์แก่โลกมากที่สุด และสร้างปัญหาแก่โลกให้น้อยที่สุด ท่านสุทธิโกบวชเป็นอนาคาริกในวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2015 บรรพชาเป็นสามเณรในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2016 และอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2017

ท่าน รักขิโต

ท่านรักขิโต เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1961 ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และใช้ชีวิตวัยผู้ใหญ่ในรัฐโอเรกอน เมื่อเป็นหนุ่ม ท่านใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตสมณะจากการอ่านหนังสือ แต่ไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกปุถุชนต่อมาอีกหลายปี ก็ได้อ่านหนังสือ “พระวัจนะของพระพุทธเจ้า” โดยหลวงพ่อโพธิภิกขุ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอีกครั้งที่จะเดินตามแนวทางแห่งสมณะ แล้วก็ได้มีโอกาสมาพบและกราบหลวงพ่อปสนฺโนที่เคารพรักพร้อมทั้งคณะสงฆ์ที่เปี่ยมด้วยธรรม ณ วัดอภัยคีรี มาขอพำนักที่นี่จนได้บวชเป็นอนาคาริกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 บรรพชาเป็นสามเณรในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 และอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018

ท่าน โชติมนฺโต

สามเณรโชติมนฺโต เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1990 และเติบโตในมลรัฐออเรกอน เข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 2009 ที่วิทยาลัยลินฟีลด์ เมืองแมคมินวิล ออเรกอน โดยเลือกคณิตศาสตร์และการเขียนเชิงสร้างสรรค์เป็นวิชาเอก (โดยมิได้ตั้งเป้าหมายอะไรนอกไปจากการเสริมสร้างสติปัญญาที่มากับสาขาวิชาที่เรียน)

แล้วเหตุการณ์ก็พลิกผัน คงไม่น้อยไปกว่าความบังเอิญแห่งจักรวาล เมื่อเป็นนักศึกษาปีที่สาม ก็ได้ฟังเทศนาธรรมเป็นครั้งแรกในยูทูบ หลังจากเรียนธรรมะด้วยตนเอง (ส่วนมากทางยูทูบดังที่กล่าวมา) จึงตัดสินใจฝึกสมาธิ หลังจากการฝึกสมาธิอยู่หลายเดือน ทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะออกบวช ฉะนั้นเมื่อจบมหาวิทยาลัย จึงไปทำงานที่ร้านเซฟเวย์ในเมืองบ้านเกิด อาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ฝึกฝนการยับยั้งในการใช้จ่าย เก็บออมรายได้จากงานไม่เต็มเวลาด้วยค่าจ้างขั้นต่ำ มาใช้คืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาจนครบ เมื่อหมดหนี้สินแล้ว ท่านก็มุ่งหน้ามายังวัดอภัยคีรีโดยไม่รีรอ พำนักอยู่จนต่อมาได้บวชเป็นอนาคาริกในปีค.ศ. 2017 บรรพชาเป็นสามเณรในปีต่อมา และเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2019

สามเณร เตชสาโร

สามเณรเตชสาโรรู้สึกซาบซึ้งสำนึกในบุญคุณของครอบครัวอันเป็นที่รัก และเพื่อนสนิท ที่ได้ช่วยเหลือทั้งกายและใจมาโดยตลอด ท่านออกบวชเป็นอนาคาริกครองผ้าขาวเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2021

สามเณร โอภาสี

สามเณรโอภาสีเติบโตขึ้นในเมืองซานตา โรซ่า มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงวัยรุ่นท่านได้มีความสับสนเกี่ยวกับการมีอยู่ของชีวิต จึงได้ฝึกสมาธิและศึกษาพุทธศาสนา ซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของท่านไปอย่างมากมาย นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ท่านเกิดความมั่นใจในศักยภาพที่จะมีความพึงพอใจอันแท้จริง และศักยภาพที่จะเข้าใจในสถาวะต่างๆอย่างแท้จริง ความมั่นใจนี้เกิดขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจท่าน ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนต้องมนต์เสน่ห์แห่งหนทางสู่ความสงบนี้ สามเณรโอภาสีรู้สึกขอบคุณในความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนๆของท่าน ที่ได้กระตุ้นให้ท่านทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด

สามเณรโอภาสีบรรพชาเป็นสามเณรในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021

สามเณร สีวโก

สามเณรสีวโก บวชเป็นอนาคาริกเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2020 และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2021

อนาคาริก จัสติน

อนาคาริกจัสติน เกิดและเติบโตขึ้นในเขตใกล้ราวป่าในมลรัฐแมสซาซูเซตส์ ท่ามกลางครอบครัวที่รักและสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี เขามีความสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับเรื่องจักรวาล จึงได้เข้าเรียนด้านฟิสิกส์ในเมืองบอสตัน หลังจากเรียนจบแล้วเขาได้ย้ายไปประเทศนิวซีแลนด์ และพำนักอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆที่น่ารัก เมื่อการฝึกสมาธิของเขามีความลึกซึ้งมากขึ้น เขาก็ได้เดินทางไปวัดวิมุตติ และรู้สึกสนใจในชีวิตสมณะขึ้นมาทันที เพราะชีวิตในสมณเพศนั้นสามารถช่วยให้เขาสำรวจทั้งจักรวาลนี้ และจิตใจของตนได้เป็นอย่างดี เขาเดินทางออกจากประเทศนิวซีแลนด์และเริ่มต้นฝึกฝนในชีวิตอนาคาริกที่วัดอภัยคีรีในปี ค.ศ. 2022 อนาคาริกจัสตินรู้สึกขอบคุณสรรพสัตว์ทั้งหลาย, ครอบครัวของเขา, และเพื่อนๆของเขาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผู้ซึ่งได้ให้การสนับสนุนเขาในทุกๆด้าน ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว และเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากการช่วยเหลือสนับสนุนดังกล่าว

Sāmaṇera Devasirī

Sāmaṇera Devasirī went forth as a sāmaṇera on December 12, 2023.

Anagārika Art

Art was born in 1992, and his father was a Hare Krishna practitioner. Thus, from an early age he was exposed to spirituality, karma and rebirth, mantras, and Indian food buffets. During a brief six-year career as an actuary, his dissatisfaction with the samsaric system grew to the point of renunciation. One day, while on a walk at the beach-forest in Seattle, he came upon Bhikshu Dharmamitra, who was translating the immeasurable Avatamsaka Sutra and offered him Dhamma guidance right there. He is grateful to that venerable monk for later introducing him to Clear Mountain Monastery; to Ajahn Nisabho and Ajahn Kovilo; and to Abhayagiri Monastery and the teachings of Luang Por Chah, from there. Art is very appreciative of the monastics and lay supporters connected to Abhayagiri for their kindness, hospitality, and generosity. He took Anāgārika ordination in 2023.

อุบาสิกา เดบบี้

ขณะที่อุบาสิกาเดบบี้เดินทางไปเยือนประเทศเนปาล, ธิเบต, และประเทศไทยในปี ค.ศ. 1987 ได้เกิดแรงบันดาลใจจากการที่ได้พบเห็นการอุทิศตนต่อพระพุทธศาสนาของชาวธิเบต จากนั้นเข้ารับการฝึกอบรมปฏิบัติธรรมะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยด้วยความหวังที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในระหว่างการเดินทางผ่านประเทศอังกฤษเพื่อกลับสหรัฐอเมริกา อุบาสิกาเดบบี้ได้แวะเยือนวัดอมราวดี และใช้ชีวิตที่วัดอมราวดีและวัดป่าจิตตวิเวกอยู่เกือบหนึ่งปี เพิ่มความเข้าใจถึงหนทางสู่ความพ้นทุกข์ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา อุบาสิกาเดบบี้เป็นหนึ่งในคณะผู้ก่อตั้งมูลนิธิสังฆปาละ และได้ย้ายมาที่วัดตั้งแต่ช่วงบุกเบิกในปี ค.ศ. 1998 พักอาศัยกับเพื่อนบ้านข้างวัด จนกระทั่งต่อมาเจ้าของก็ได้เมตตามอบบ้านและที่ดินทั้งหมดให้กับวัดป่าอภัยคีรีในปี ค.ศ. 2002

Traveling

อาจารย์ กัสสโป

อาจารย์กัสสโปเกิดที่ประเทศเวียดนาม และเติบโตในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ท่านเริ่มสนใจในพระพุทธศาสนาเมื่อมาอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิสเมื่อปี 1998 หลังจากที่ได้เยี่ยมพำนักหลายวัด ท่านตัดสินใจศึกษาชีวิตสมณะในวัดอย่างจริงจัง ณ วัดอภัยคีรี ท่านจึงอาสาร่วมอุปัฏฐากคณะสงฆ์ที่นี่ในช่วงเข้ากรรมฐานฤดูหนาวปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ย้ำการตัดสินใจที่จะขอบวชเรียนเป็นอนาคาริก ท่านจึงคืนสู่อภัยคีรีเมื่อเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน เพื่อบวชเรียน เริ่มการฝึกเป็นอนาคาริกและสามเณรเป็นเวลาสองปี และอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2007 โดยมีพระอาจารย์ปสนฺโนเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากศึกษาอบรมในประเทศไทยเป็นเวลาหนึ่งปี ท่านจึงเดินทางกลับสู่วัดอภัยคีรีในปี 2010

อาจารย์ จุนทะ

อาจารย์จุนทะเกิดและเติบโตในครอบครัวอันอบอุ่น ย่านชานนครชิคาโก และในปี ค.ศ. 1996 ได้ย้ายถิ่นฐานมายังมารัฐแคลิฟอร์เนีย ท่านเริ่มสนใจในพระพุทธศาสนาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย เรื่อยมาตลอดจนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย จึงได้เดินทางไปยังเอเชียเพื่อแสวงหาด้านจิตวิญญาณ ซึ่งค่อยนำมาสู่การฝึกสมาธิภาวนาในพุทธศาสนาสายเถรวาท ทว่า ท่านเข้าใจกระจ่างแจ้งยิ่งขึ้นเมื่อพบกับพระสงฆ์จากวัดอภัยคีรี ว่าการฝึกตนในเพศบรรพชิตนั้นจะนำไปสู่ชีวิตอันเปี่ยมไปด้วยปัญญา ความสงบและพึงพอใจอันลึกซึ้ง ท่านจึงอำลาชีวิตฆราวาส และมาสู่วิถีสมณะแห่งวัดอภัยคีรีตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2005 โดยออกบวชครองผ้าขาวเป็นอนาคาริกก่อนบรรพชาเป็นสามเณรรวมเวลา 2 ปีก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ท่านบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อปสนฺโนและหลวงพ่ออมโรเป็นเวลา 8 ปีครึ่ง ก่อนที่จะย้ายไปวัดติสรณะ ในประเทศคานาดาเมื่อปีค.ศ. 2014 เพื่อฝึกฝนอบรมกับหลวงพ่อวีรธัมโม หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2017 ท่านได้เดินทางจาริกพำนักตามวัดสาขาต่างๆในตะวันตก รวมทั้งวัดโพธิวันและธัมมคีรีในออสเตรเลีย วัดจิตตวิเวกในอังกฤษ และวัดสันตจิตตารามในอิตาลี อาจารย์จุนทะคืนสู่วัดอภัยคีรีในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020

อาจารย์ ฐฺิตปญฺโญ

อาจารย์ฐฺิตปญฺโญเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1983 ที่วอชิงตันดีซี และมีชีวิตในวัยเยาว์ย่านชานเมืองของนครแห่งนั้น ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ท่านเริ่มหันมาสนใจด้านจิตวิญญาณเริ่มนั่งสมาธิทุกวันพร้อมทั้งเข้าร่วมอบรมการปฏิบัติธรรม หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วก็ตัดสินใจมุ่งตามแรงบันดาลใจใฝ่รู้แห่งจิตวิญญาณโดยไปขอพำนักเป็นอุบาสกที่วัดป่าและศูนย์ปฏิบัติธรรม Bhavana Society ในรัฐเวอร์จิเนียตะวันตก เป็นเวลาหนึ่งปีเศษ แล้วตัดสินใจหาประสบการณ์ชีวิตสมณะตามวัดต่างๆ เมื่อเดินทางมาถึงวัดป่าอภัยคีรี ก็รู้สึกได้ว่าพบที่่ที่ใช่สำหรับท่านแล้ว พำนักต่อมาจนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2009 ก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุเข้าสู่คณะสงฆ์แห่งวัดอภัยคีรี โดยมีหลวงพ่อปสนฺโนเป็นพระอุปัชฌาย์

ท่าน จิตตปาโล

ท่านจิตตปาโลเกิดและเติบโตในรัฐเมน พบพระพุทธศาสนาขณะที่เดินทางไปเยือนประเทศไทย หลังจากเรียนจบมัธยมปลายในปี ค.ศ. 2011 ไรอั้น (ชื่อในขณะนั้น) เริ่มหันมาศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง และดำเนินชีวิตตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเรื่อง อาหารใจ ก็ตัดสินใจเดินทางมาวัดอภัยคีรี ต่อมาได้มาอยู่ช่วยงานในช่วงเข้ากรรมฐานฤดูหนาวในปี ค.ศ. 2016 และรู้สึกมีความผูกพันอย่างมากกับคณะสงฆ์และการปฏิบัติธรรมที่นี่ จึงบวชเป็นอนาคาริกในวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ของปีเดียวกันนั้นเอง ไรอั้นตระหนักดีว่า นี่เป็นโอกาสอันสำคัญและมีคุณค่ายิ่งต่อตนเอง และรู้สึกซาบซึ้งใจในความรักความเมตตาและการสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อนๆ พร้อมทั้งครูบาอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนตลอดระยะเวลาหลายปี ซึ่งได้นำให้มายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้

ท่านจิตตปาโลบรรพชาเป็นสามเณรในเดือนพฤศจิกายน 2017 และอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2019

ท่าน ธมฺมวโร

ท่านธมฺมวโรเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1987 ในครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น ในเมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส เมื่อเรียนจบปริญญาตรี เกิดความลังเลใจที่จะศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพการงาน ด้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย ในขณะที่อยู่ในประเทศอินเดีย เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าคอร์สวิปัสสนากรรมฐาน ของท่านโกเอ็นก้า และหลังจากที่อยู่ปฏิบัติภาวนาและเป็นจิตอาสาช่วยงานที่นั่นอยู่สองสามปี ก็มีโอกาสอุปถากสมณะอาวุโสรูปหนึ่ง ซึ่งสร้างฺแรงบันดาลใจจากการที่หลวงพ่อรูปนั้นเปี่ยมไปด้วยธรรมะ จนปรารถนาอย่างแรงกล้าสู่วิถีแห่งสมณะ ทำให้สำนึกและซาบซึ้งที่ดำเนินมาสู่การบวชเรียนได้ในที่สุด โดยมาพำนักปฏิบัติธรรมและก็บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอภัยคีรีเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2019 ต่อมาสู่การอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2020

ท่าน ยสะ

ท่านยสะ เกิดเมื่อ ค. ศ. 1987 และเติบโตขึ้นในเมืองเบอร์แบงค์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่ออายุ 19 ปี แม่ของท่านได้มอบหนังสือธรรมะให้เล่มหนึ่ง อ่านหนังสือจบแล้วก็เกิดความสนใจจึงไปทำงานและใช้ชีวิตอย่างสมถะที่ศูนย์ฝึกสมาธิในทางตอนเหนือของรัฐโคโลราโด เป็นเวลาสามเดือน และได้ย้ายไปอยู่ในศูนย์ฝึกสมาธิกรรมฐานหลายๆ แห่ง ท่านได้มาช่วยงานที่วัดอภัยคีรีในช่วงเข้ากรรมฐานฤดูหนาวเมื่อปี ค. ศ. 2012 และได้บวชเป็นอนาคาริกในวันที่ 28 เมษายนในปีนั้น หลังจากใช้ชีวิตอนาคาริกที่นี่อยู่หนึ่งปีเศษๆ และยังไม่พร้อมที่จะอุปสมบทเป็นภิกษุในขณะนั้น ท่านจึงอำลาสู่ชีวิตฆราวาส โดยไปพำนักอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาในเมืองซานตาครูซ และเข้าเรียนหนังสือเต็มเวลาที่วิทยาลัยคาบริลโล่ใกล้ๆนั้นด้วย หลังจากเรียนจบปริญญาตรีในด้านเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กเล่ย์ ความรู้สึกว่าอยากจะบวชก็หวนคืน ท่านจึงได้คืนสู่วัดอภัยคีรีอีกครั้งในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018 ได้อยู่ช่วยงานของวัดในช่วงกรรมฐานฤดูหนาวในปี ค.ศ. 2019 และบวชเป็นอนาคาริกอีกครั้งเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2019 ท่านยสะ ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2021

Anagārika Max

Anagārika Max was born and raised in Hollywood, Florida. His first serious exposure to meditation was through a 10-day Goenka Vipassana retreat. Since then, he has spent time travelling to various monasteries in order to further understand and apply the teachings of the Buddha on meditation and inner cultivation. Anagārika Max went forth as an anagārika on May 19, 2023.

Anagārika Max is currently in New Hampshire.